ราคา Ethereum

Ethereum คืออะไร?

หลายคนใช้คำว่า "Ethereum" และ "Ether" เสมือนมีความหมายเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วสองคำนี้ไม่ได้หมายถึงสิ่งเดียวกัน ในขณะที่ Ether (ETH) เป็นคริปโตเคอร์เรนซี เช่นเดียว Bitcoin, Dogecoin หรือ Litecoin แต่ Ethereum เป็นระบบบล็อกเชนที่ Ether ใช้งานอยู่ เครือข่ายของ Ethereum มอบกรณีการใช้งานที่หลากหลายให้กับผู้ใช้ เช่น การโอนเงิน การให้กู้ยืมแบบ peer-to-peer และความสามารถในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ Ether มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเครือข่าย Ethereum เนื่องจากช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทั้งหมด

เครือข่าย Ethereum สามารถใช้เก็บข้อมูลได้อย่างปลอดภัย นักพัฒนาสามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มโอเพนซอร์สของคริปโตตัวนี้เพื่อสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์(DApps) ทำให้ Ethereum ได้รับสมญานามว่า “คอมพิวเตอร์โลก” นักลงทุนเองก็ไม่ได้ถูกมองข้ามเช่นกัน โดยราคาของ ETH ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้เป็นที่ชื่นชอบในคนรักคริปโตเคอร์เรนซี และผู้ที่มองหาช่องทางก้าวเข้าสู่วงการคริปโต

ใครคือผู้ก่อตั้ง Ethereum? 

Vitalik Buterin เป็นผู้ก่อตั้ง Ethereum โปรแกรมเมอร์ชาวรัสเซีย-แคนาดาผู้นี้ได้พัฒนาคริปโตเคอร์เรนซีที่ใหญ่เป็นอันดับสองในปี 2015 เมื่ออายุเพียง 19 ปี ความสนใจในระบบการชำระเงินแบบกระจายศูนย์ของเขาเริ่มต้นขึ้นในปี 2011 เมื่อเขาร่วมก่อตั้ง Bitcoin Magazine ซึ่งเป็นพื้นที่ออนไลน์สำหรับการแบ่งปันบทความเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีกับคนทั่วโลก

แนวคิดเรื่องระบบนิเวศ Ethereum ได้รับแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยี Bitcoin Buterin ต้องการสร้างสิ่งที่ดีกว่า Bitcoin มาก — สกุลเงินดิจิทัลที่เป็นได้มากกว่าวิธีการชำระเงิน เขาออกเอกสารไวท์เปเปอร์ในปี 2014 โดยบอกให้โลกได้รู้จัก "แพลตฟอร์มปลายเปิดสำหรับการโฮสต์แอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์" นักพัฒนาหลายพันคนสนับสนุนแนวคิดของเขา และในปีเดียวกันนั้นเอง เขาเริ่มสร้างระบบนิเวศ Ethereum หลังจากคว้าทุน Thiel Fellowshipมูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ

Ethereum เปิดใช้งานเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ปี 2015 การเทรดครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ปี 2015 ในราคา 2.77 ดอลลาร์สหรัฐต่อ ETH ราคาของ Ether แตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 4,891.70 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ปี 2021

ETH ใช้สำหรับทำอะไร? 

ขับเคลื่อนและการรักษาเครือข่าย Ethereum

Ether (หรือ ETH) เหรียญที่ถือและแลกเปลี่ยนบนเครือข่ายของ Ethereum ถือเป็นเส้นเลือดแดงของ Ethereum หากไม่มีเหรียญ เครือข่ายก็จะทำงานไม่ได้ เพื่อเริ่มต้นหรือใช้แอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์ม Ethereum จำเป็นต้องมีสื่อกลางในการชำระเงิน ในขณะที่มีคริปโตเคอร์เรนซีมากมายในเครือข่ายบล็อกเชนนี้ เช่น BAT และ BNT แต่ ETH ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางหลักในการทำธุรกรรมของ Ethereum 

การขุดเหมือง

ทุกครั้งที่คุณทำกิจกรรมบนเครือข่ายของ Ethereum นักขุดเหมืองจะตรวจสอบว่าสิ่งที่คุณทำนั้นถูกต้องหรือไม่ นักขุดเหมืองจะได้รับ ETH จำนวนเล็กน้อยทุกครั้งที่ทำการตรวจสอบเสร็จสิ้น การขุดเหมือง ETH สามารถเปรียบได้กับกระบวนการบันทึกข้อมูล ซึ่งจำเป็นสำหรับการรักษาความปลอดภัยและการกระจายศูนย์ของ Ethereum 

ในฐานะสื่อกลางในการชำระเงิน

ผู้ค้ามากมายจากทั่วโลก เช่น Amazon, Travala และ Overstock ยอมรับ ETH เป็นสื่อกลางการชำระเงินค่าสินค้าและบริการ … และคาดว่ารายชื่อเหล่าจะเติบโตต่อไป

Ethereum ทำงานอย่างไร?

Ethereum มีโครงสร้างบล็อกเชนคล้ายกับ Bitcoin แต่ความแตกต่างจาก Bitcoin คือเป็นแบบปลายเปิด Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่ตั้งโปรแกรมได้ ซึ่งรองรับคริปโตเคอร์เรนซีและแอปพลิเคชันต่างๆ นักพัฒนาสามารถสร้างซอฟต์แวร์และนำไปใช้โดยอัตโนมัติผ่านสัญญาอัจฉริยะ สัญญาแบบดั้งเดิมกำหนดเงื่อนไขของการมีส่วนร่วมไว้ล่วงหน้า และบทบาทของสัญญาอัจฉริยะคือดูแลให้แน่ใจว่าข้อกำหนดเหล่านี้ถูกเขียนขึ้นในรูปแบบโค้ดและมีการเติมเต็ม ธุรกรรมจะดำเนินการโดยอัตโนมัติเมื่อตรงตามเงื่อนไขที่ระบุ ขจัดความล่าช้าและลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการด้วยตนเอง

ตัวอย่าง

สมมติว่าผู้ใช้สร้างสัญญาอัจฉริยะเพื่อส่ง ETH มูลค่า 500 ดอลลาร์สหรัฐให้สมาชิกในครอบครัวในวันที่ 15 ของทุกเดือน พวกเขาเขียนโค้ดคำสั่งเหล่านี้ลงในบล็อกเชนของ Ethereum และ Ether จะถูกส่งไปยังบัญชีผู้รับในแต่ละเดือนตามที่ระบุไว้ ตราบใดที่เงื่อนไขของสัญญาถูกเติมเต็ม

Ethereum ใช้สำหรับทำอะไร?

1. การเงินแบบกระจายศูนย์

Ethereum เป็นช่องทางสำหรับหลีกเลี่ยงจากรูปแบบการควบคุมภายนอกใดๆ (เช่น การกำกับดูแลของรัฐบาล) ในเรื่องธุรกรรมทางการเงินและการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์อื่นๆ

2. การสร้าง DApp

Ethereum ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปได้อย่างไม่มีข้อจำกัด เช่น เกมและโซเชียลมีเดีย/แพลตฟอร์มการลงทุน

3. Non-fungible Token (NFT)

ศิลปินสามารถขายผลงาน NFT ของพวกเขาได้โดยตรงผ่านสัญญาอัจฉริยะ และโทเค็นที่ขับเคลื่อนด้วย Ethereum

ทำไม ETH ถึงมีมูลค่า? 

ผู้ที่มองหาช่องทางการลงทุนใน ETH อาจสนใจอยากทราบที่มาของมูลค่าเหรียญ เช่นเดียวกับ Bitcoin มูลค่าของ ETH ยึดโยงกับการทำหน้าที่สิ่งแลกเปลี่ยนแทนเงิน อย่างไรก็ตาม Ether ต่างจาก Bitcoin ตรงที่มีข้อเสนอด้านมูลค่าที่กว้างขวางกว่า ค่าแก๊ส NFT การดำเนินการด้านการกู้ยืม และความสามารถในการสเตกเพื่อรับดอกเบี้ย มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มมูลค่าของ ETH

นอกจากนี้ คำมั่นเรื่อง Ethereum 2.0 ได้สร้างความสนใจจากนักเทรดระดับสถาบันที่ลงทุนในเหรียญ ทำให้มีมูลค่าการเก็งกำไรที่แข็งแกร่ง Ethereum 2.0 เป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญต่อเครือข่ายของบล็อกเชน และแม้ว่าจะไม่ใช่การอัพเกรดครั้งแรก (หรือที่เคยคาดหวัง) แต่ก็ยังมีความสำคัญ เพราะเชื่อว่าการอัปเกรดครั้งนี้จะผลักดันให้มูลค่ารวมที่ล็อกไว้ (TVL) ของ Ethereum ขยายตัวครั้งยิ่งใหญ่

อะไรทำให้ Ethereum โดดเด่น?

Ethereum ได้แนวคิดพื้นฐานมาจาก Bitcoin ทั้งสองเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อขจัดการควบคุมจากภายนอกในการทำธุรกรรม และทั้งคู่ใช้รายการเดินบัญชีสาธารณะเพื่อกระจายศูนย์เครือข่ายของตน แล้วอะไรที่ทำให้ Ethereum แตกต่างจาก Bitcoin และโครงการคริปโตอื่นๆ ล่ะ? คำตอบอยู่ในเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ใช้

เทคโนโลยีบล็อกเชน

แนวคิดพื้นฐานของเทคโนโลยีบล็อกเชนของ Bitcoin คือกลุ่มของบัญชีที่ผู้ใช้ถือเงินเอง หรือวอลเลตคริปโตเคอร์เรนซี นี่เป็นการต่อยอดจากเทคโนโลยีก่อนหน้า เครือข่าย Ethereum มีโครงสร้างบล็อกเชนที่ซับซ้อนซึ่งเก็บโค้ดคอมพิวเตอร์ Buterin ขยายวิสัยทัศน์ของ Bitcoin ในด้านระบบการชำระเงินอิสระเพื่อสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกที่อนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึง DApp

ปัญหาการเซ็นเซอร์ของรัฐบาลและการควบคุมข้อมูลนั้นรุนแรงกว่าที่พวกเราคิด แอปยอดนิยม แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และแม้แต่ผู้ให้บริการอีเมลจะขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บ ลบ หรือแก้ไขข้อมูลได้ตามต้องการ แล้วที่แย่สุดล่ะ? พวกเขาแนบเนียนในเรื่องนี้มากขึ้น โดยซ่อนข้อมูลระหว่างเส้นบางๆ ในข้อกำหนดและเงื่อนไข

ตราบใดที่ Ethereum ยังทำงาน ข้อมูลที่จัดเก็บไว้สามารถแบ่งปันกับใครก็ได้ในเครือข่าย โดยไม่มีการแทรกแซงจากผู้มีอำนาจส่วนกลาง ซึ่งรวมถึงแอปพลิเคชันที่ทำงานบนเครือข่ายด้วย บล็อกเชนของ Ethereum นั้นขับเคลื่อนโดย ETH และช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถพัฒนาโทเค็น ETH ในรูปแบบใหม่เพื่อการขับเคลื่อน DApp ผ่านสัญญาอัจฉริยะ

เหรียญเสมือนบน ETH โดยส่วนใหญ่ทำงานบนโทเค็นหลักแบบ ERC20เทคโนโลยีนี้เพิ่มมูลค่าในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยมอบแนวคิดใหม่ๆ สำหรับการแก้ปัญหาที่มีมายาวนาน ทั้งด้านความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และการควบคุมของผู้ใช้ ด้วยพลังของ DApp ทำให้ Ethereum มีประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การเงิน เกม และการจัดการห่วงโซ่อุปทาน

มีเหรียญ ETH หมุนเวียนอยู่เท่าไร? 

ในขณะที่ BTC นั้นสามารถขุดได้จำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญ สกุลเงินเสมือนที่ใหญ่เป็นอันดับสองนั้นมีรูปแบบที่แตกต่างไป ข้อมูลจาก CoinMarketCap แสดงให้เห็นว่าขณะนี้มีเหรียญ ETH ที่หมุนเวียนอยู่จำนวน 121 ล้านเหรียญ (ตัวเลขนี้ถูกต้อง ณ วันที่ 4 มิถุนายน ปี 2022) ซึ่งรวมถึง 60 ล้านเหรียญที่ครอบครองโดยผู้สนับสนุนรายแรกๆ ของระบบนิเวศ Ethereum และ 12 ล้านเหรียญที่จัดสรรไว้สำหรับกองทุนเพื่อการพัฒนา

จำนวน ETH ที่มีอยู่มีผลกระทบต่อราคา หากจำนวน Ether ที่หมุนเวียนมีมากขึ้นจะทำให้มูลค่าของโทเค็นลดลง แม้ไม่มีการจำกัดจำนวนเหรียญ ETH สูงสุดที่เป็นไปได้ในอนาคต แต่โดยส่วนใหญ่แล้วอุปทานและอุปสงค์ของเหรียญยังคงถูกควบคุมโดยความยากในการขุดในทุกการขึ้นระดับใหม่ 

Ethereum จะเปลี่ยนผ่านจากระบบ Proof of Work (PoW) เป็น Proof of Stake (PoS) ในไม่ช้า ซึ่งอาจลดจำนวนเหรียญที่สามารถขุดได้เป็นอย่างมาก การอัพเกรดนี้มีแนวโน้มที่สุดท้ายจะมีการเลิกใช้นักขุดเหมืองโดยสิ้นเชิง ซึ่งอาจส่งผลให้ ETH กลายเป็นสินทรัพย์ที่มีภาวะเงินฝืด ราคาจะแข็งค่าขึ้นเมื่อความต้องการเหรียญเพิ่มขึ้นเหนืออุปทาน แต่ในทางกลับกันก็เป็นความจริงด้วย เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น XRP ซึ่งมีอุปทานหมุนเวียน 45 ล้านเหรียญไม่เคยทำราคาแตะระดับสูงสุดใหม่เลยนับตั้งแต่มูลค่าแตะ 3.84 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2018

วิธีการขุด ETH

กระบวนการขุดเหมือง ETH นั้นคล้ายกับการขุดเหมืองทองคำหรือแร่อื่นๆ กิจกรรมการขุดที่ประสบความสำเร็จแต่ละครั้งจะสร้างธุรกรรมใหม่บนบล็อกเชน Ethereum ซึ่งจะเป็นการเพิ่มการหมุนเวียน นักขุดเหมือนคือนักลงทุนที่ใช้พลังงาน โปรเซสเซอร์คอมพิวเตอร์ และเวลาในการตรวจสอบธุรกรรมบนบล็อกเชน Ethereum 

ในการขุด ETH คุณจะต้องมีสิ่งต่อไปนี้:

• วอลเลตคริปโต

• แอปพลิเคชันสำหรับขุดเหมือง

• ไดรเวอร์ GPU

• ระบบปฏิบัติการ

• การ์ดจอ

• แอดเดรสของกองการขุด

ใช้เวลานานแค่ไหนในการขุด ETH 1 เหรียญ?

คุณอาจสงสัยว่า: ต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการขุด ETH 1 เหรียญให้สำเร็จ? ให้คิดถึงนักขุดแร่ที่พบทองคำจำนวนมากในเหมืองใหม่ ในตอนแรก การขุดหาทองก็เป็นเรื่องง่าย อย่างไรก็ตาม ไม่ช้าก็เร็ว สินแร่จะเริ่มหมดลง และต้องใช้ความพยายามมากขึ้น (ต้องขุดให้ลึกขึ้น) เพื่อรวบรวมจำนวนทองคำที่ขุดได้ให้เท่ากับช่วงเริ่มต้น

ด้วยตรรกะเดียวกัน นักขุดเหมือง ETH ยุคแรกๆ จึงไม่มีปัญหาเรื่องการขุดให้ได้หลายเหรียญในทุกๆ วัน อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป การขุด ETH กลายเป็นเรื่องยากขึ้น ณ วันที่ 4 มิถุนายน ปี 2022 ด้วยความยากในการขุด Ethereum ที่ 15.41P จะต้องใช้เวลา 86.2 วันในการขุด 1 ETH ด้วยอัตราแฮชเรตที่ 1040 MH/s โดยใช้กำลังไฟ 480 วัตต์ ค่าไฟฟ้า 0.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง และได้รับรางวัล 2 ETH ต่อบล็อก กระบวนการนี้ไม่เพียงแต่ใช้เวลานาน แต่ยังมีค่าใช้จ่ายสูงอีกด้วย ขึ้นอยู่กับราคาของ ETH คุณอาจไม่ได้กำไรมาก

แอดเดรส ETH คืออะไร?

ในชีวิตจริง แอดเดรสหรือที่อยู่หมายถึงพื้นที่ทางกายภาพที่บุคคลอาจพบและสื่อสารกับผู้อื่น ในทำนองเดียวกัน ผู้ใช้ Ethereum ต้องการแอดเดรสสำหรับการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน ที่อยู่เพื่อรับของวอลเลต Etherem เรียกว่าแอดเดรส ETH (หรือแอดเดรส ERC20) แอดเดรส ETH มี 42 อักขระ และเริ่มต้นด้วย "0x" เสมอ ตามด้วยตัวเลขและตัวอักษรแบบสุ่ม 40 ตัว (เช่น 0x71C7656EC7ab88b098defB751B7401B5f6d8976F)

แอดเดรส ETH มีสองประเภท:

• แอดเดรส ETH ที่เป็นเจ้าของภายนอก: ในฐานะบัญชี ETH ที่ถือเงินของคุณ ที่อยู่เหล่านี้มักจะประกอบด้วยชุดของคีย์สาธารณะและคีย์ส่วนตัว

• แอดเดรสสัญญา: ซึ่งจะออกเมื่อมีการปรับใช้สัญญาในบล็อกเชน Ethereum

วิธีซื้อ ETH

ขณะเขียนบทความนี้ ETH อยู่ในอันดับที่ 2 ตามมูลค่าตลาดของ CoinMarketCap ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถซื้อ ETH ได้จากตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีชั้นนำ รวมถึงBybit

ซื้อ ETH ผ่าน Bybit

ในการซื้อ ETH ผ่านตลาดแลกเปลี่ยน Bybit เพียงทำตามขั้นตอนเหล่านี้:

1. ไปที่หน้าเทรดสปอตของ ETH 

2. เลือกคู่เทรดของคุณที่ด้านซ้ายของหน้า สำหรับ ETH คุณสามารถเลือกที่จะเทรดด้วย USDT, BTC, USDC หรือ DAI คุณยังสามารถเลือกใช้ ETP (ETH3L หรือ ETH3S) ซึ่งจับคู่เทรดกับ USDT ได้

3. เลือกประเภทคำสั่งที่คุณต้องการ: Limit Order, Market Order หรือ Conditional Order

สำหรับ Limit Order:

1. เลือก Limit

2. ป้อนราคาของคำสั่ง

3. ป้อนจำนวน ETH ที่คุณต้องการซื้อ

4. คลิกที่ ซื้อ ETH

5. เมื่อคุณยืนยันว่าข้อมูลของคุณถูกต้องแล้ว ให้คลิกที่ ซื้อ ETH

6. ดูรายละเอียดคำสั่งซื้อของคุณภายใต้ แอกทีฟ บนหน้าเว็บ หรือ คำสั่ง หากคุณใช้แอป Bybit

สำหรับ Market Order:

1. เลือก Market

2. ป้อนจำนวน USDT ที่คุณจ่ายเพื่อซื้อ ETH

3. คลิกที่ ซื้อ ETH

4. เมื่อคุณยืนยันว่าข้อมูลของคุณถูกต้องแล้ว ให้คลิกที่ ซื้อ ETH

5. ดูรายละเอียดคำสั่งของคุณภายใต้ เติมแล้ว

สำหรับ Conditional Order:

1. เลือก Conditional

2. ป้อนราคาทริกเกอร์

3. เลือกให้ดำเนินการที่ ราคา Market หรือ ราคา Limit

1. ราคา Market: ไม่จำเป็นต้องกำหนดราคาคำสั่ง

2. ราคา Limit: จำเป็นต้องกำหนดราคาคำสั่ง

4. ตามประเภทของคำสั่ง:

1. Market Buy: ป้อนจำนวน USDT ที่คุณจ่ายเพื่อซื้อ ETH

2. Limit Buy: ป้อนจำนวน ETH ที่คุณต้องการซื้อ

5. คลิกที่ ซื้อ ETH

6. เมื่อคุณยืนยันว่าข้อมูลของคุณถูกต้องแล้ว ให้คลิกที่ ซื้อ ETH

7. ดูรายละเอียดคำสั่งของคุณภายใต้ Conditional บนหน้าเว็บ และ คำสั่งทั้งหมด → คำสั่งปัจจุบัน ในแอป Bybit

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม คุณสามารถไปที่ คู่มือการเทรดสปอตโดย Bybit

วิธีการจัดเก็บ ETH

ETH มีอยู่ในฐานะบันทึกบนบล็อกเชนเท่านั้น และไม่มีรูปแบบที่จับต้องได้ คริปโตเคอร์เรนซีตัวนี้สามารถเก็บไว้ในวอลเลตคริปโตหรือวอลเลต ETH ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้คุณทำธุรกรรมและเก็บรักษาเหรียญได้อย่างปลอดภัย วอลเลต ETH ทุกใบมีคีย์ส่วนตัว ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป็นรหัสผ่านสำหรับลงชื่อเข้าหรือออกจากการใช้งาน เพื่อปลดล็อกเหรียญของคุณ รักษาคีย์ส่วนตัวของคุณให้ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ ETH ถูกโจรกรรม

วอลเลตนั้นมีสองประเภทหลัก: Hot Wallet และ Cold Walletโดย Hot Wallet จะเก็บเหรียญของคุณในแบบออนไลน์ ในขณะที่ Cold Wallet เก็บ ETH ของคุณแบบออฟไลน์ (และเชื่อมต่อออนไลน์เมื่อคุณอนุญาตเท่านั้น) หากคุณต้องการเก็บรักษา ETH จำนวนมาก Cold Wallet จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด อย่าลืมเก็บรายละเอียดการเข้าสู่ระบบของคุณให้ปลอดภัย