ดัชนี

คําจํากัดความ

แท็บโพสิชัน

สัญญา

ซึ่งจะแสดงคู่เทรดของโพสิชันที่คุณกําลังถือครองโพสิชันอยู่ 

คุณยังจะเห็นโหมดมาร์จิ้นและใช้เลเวอเรจจากแต่ละโพสิชัน 

หากคุณดํารงตําแหน่งมากกว่าหนึ่งโพสิชันในคู่เทรดต่าง ๆ คุณสามารถเลือก แสดงโพสิชันทั้งหมด (Show All Positions) บนเว็บไซต์ หรือเลือก สัญญาทั้งหมด (All Contracts) ในแอปเพื่อดูรายละเอียดคู่เทรดทั้งหมด 

อ่านเพิ่มเติม:

• ความแตกต่างระหว่างโหมดมาร์จิ้นต่างๆ ภายใต้บัญชี Unified Trading Account

• การใช้เลเวอเรจส่งผลต่อ P/L ที่มีโอกาสเกิดขึ้นของคุณรือไม่

• การใช้เลเวอเรจจากจะมีผลต่อ ROI ของฉันสําหรับโพสิชันใดตําโพสิชันหนึ่งอย่างไร

ปริมาณ (เว็บไซต์)

หรือ

ขนาดโพสิชัน (แอป)

ซึ่งจะแสดงขนาดโพสิชันของคุณ

ตัวเลขสีเขียวจะระบุซื้อโพสิชัน ในขณะที่ตัวเลขสีแดงจะระบุชอร์ตโพสิชัน

สําหรับสัญญาแบบผันผวน ปริมาณจะถูกเสนอราคาเป็น USD ในขณะที่สําหรับสัญญา USDT ปริมาณจะถูกเสนอราคาในสกุลเงินดิจิทัลพื้นฐาน 

มูลค่า

ซึ่งหมายถึงมูลค่าโพสิชัน ซึ่งคํานวณดังนี้: 

สัญญาต่อเนื่องแบบผันผวน: 

มูลค่าโพสิชัน = ปริมาณสัญญา/ราคาเข้า

สัญญา USDT หรือ USDC: 

มูลค่าโพสิชัน = ปริมาณสัญญา * ราคาเข้า

ราคาเข้า

ซึ่งหมายถึงราคาเข้าเฉลี่ยของโพสิชัน 

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการคํานวณราคาเริ่มต้นเฉลี่ย โปรดดูที่ วิธีการคํานวณราคาเริ่มต้นเฉลี่ย

ราคามาร์ก

ซึ่งจะแสดงราคามาร์กปัจจุบันของคู่เทรดที่เกี่ยวข้อง

สําหรับผู้ใช้โหมด Isolated Margin บัญชีมาตรฐานหรือ UTA ราคามาร์กเป็นตัวบ่งชี้ที่สําคัญในการระบุการชําระบัญชี 

สําหรับโหมดมาร์จิ้นข้ามกลุ่มผลิตภัณฑ์และ Portfolio Margin แม้ว่าการชําระบัญชีจะถูกระบุผ่านอัตรามาร์จิ้นรักษาสภาพ (MMR%), ราคามาร์กเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่ออัตรา MM 

คุณสามารถตรวจสอบราคามาร์กปัจจุบันจากราคาสีส้มที่ตั้งค่าสถานะไว้ในสมุดคำสั่งหรือปรึกษาราคามาร์กในกราฟการเทรดด้วยการคลิกราคาเทรดล่าสุด และเลือกราคามาร์ก

อ่านเพิ่มเติม:

• ขั้นตอนการชำระบัญชีสำหรับการเทรดอนุพันธ์ (บัญชีมาตรฐาน)

• คํานวณราคามาร์ก (สัญญาต่อเนื่อง)

• อภิธานศัพท์ (บัญชี Unified Trading Account)

• กติกาการเทรด: กระบวนการชําระบัญชี (บัญชี Unified Trading Account) 

ราคาชำระบัญชี

ภายใต้โหมดบัญชีมาตรฐานและ Isolated Margin ของ UTA การชําระบัญชีจะถูกทริกเกอร์เมื่อราคามาร์กถึงราคาชำระบัญชี 

สําหรับผู้ใช้ข้าม UTA และ Portfolio Margin โปรดทราบว่าการแสดงราคาการชําระบัญชีโดยประมาณมีไว้สําหรับการอ้างอิงเท่านั้น และการชําระบัญชีจะทํางานเมื่อ MMR% ถึง 100%

หากคุณไม่เห็นราคาการชําระบัญชีที่แสดง (--) หมายความว่าโพสิชันมีความเสี่ยงการชําระบัญชีต่ํา

อ่านเพิ่มเติม

บัญชีมาตรฐาน

• ราคาชำระบัญชี (สัญญาผกผัน)

• ราคาชำระบัญชี (สัญญา USDT)

• ทําไมโพสิชันของฉันถึงต้องชำระบัญชีเมื่อแท่งเทียนไม่แตะราคาชำระบัญชีของฉัน

UTA:

• การคํานวณราคาชำระบัญชีภายใต้โหมด Isolated Margin (บัญชี Unified Trading Account)

• กติกาการเทรด: กระบวนการชําระบัญชี (บัญชี Unified Trading Account) 

มาร์จิ้น

ใช้ได้เฉพาะผู้ใช้ UTA เท่านั้น สําหรับผู้ใช้บัญชีมาตรฐาน โปรดดูคําอธิบายมาร์จิ้นโพสิชันด้านล่าง

IM (มาร์จิ้นขั้นต้น) แสดงมาร์จิ้นขั้นต่ําที่ต้องการเพื่อเปิดโพสิชัน

การใช้เลเวอเรจโดยผู้ค้าจะส่งผลโดยตรงต่อมาร์จิ้นขั้นต้น: ยิ่งใช้เลเวเรจต่ำเท่าไหร่ มาร์จิ้นขั้นต้นที่กำหนดจะสูงขึ้น

ภายใต้โหมด Isolated Margin นักเทรดสามารถปรับมาร์จิ้นขั้นต้นของตนเพื่อแก้ไขราคาชำระบัญชีและปกป้องโพสิชันของตนได้ดียิ่งขึ้น

ภายใต้โหมด Cross Margin หรือ Portfolio Margin นักเทรดจะใช้ยอดคงเหลือที่มีอยู่ทั้งหมดของเหรียญหรือเหรียญหลักประกัน (สําหรับ UTA) เพื่อป้องกันการชําระบัญชี

อ่านเพิ่มเติม:

• การคํานวณกําไรภายใต้ Isolated Margin (UTA)

• การคํานวณกําไรภายใต้ Cross Margin (UTA)

• การคํานวณมาร์จิ้นภายใต้ Portfolio Margin

ใช้ได้เฉพาะกับผู้ใช้บัญชีมาตรฐานเท่านั้น 

มาร์จิ้นโพสิชันในที่นี้รวมถึงมาร์จิ้นขั้นต้น + ค่าธรรมเนียมในการปิด สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการคํานวณมาร์จิ้นโพสิชันภายใต้บัญชีมาตรฐาน โปรดดูที่นี่

การเติมมาร์จิ้นอัตโนมัติ

การเติมมาร์จิ้นอัตโนมัติ (AMR) ใช้ได้เฉพาะกับสัญญาต่อเนื่อง USDT ภายใต้โหมด Isolated MarginAMR เป็นฟังก์ชันที่ช่วยให้ผู้ค้าสามารถเพิ่มกําไรขั้นต้นในโพสิชันที่เปิดอยู่โดยอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงการชําระบัญชี 

เมื่อเปิดใช้งาน AMR แล้ว ทุกครั้งที่ระดับมาร์จิ้นของคุณกําลังจะถึงระดับมาร์จิ้นรักษาสภาพ Bybit จะเติมมาร์จิ้นจากยอดสินทรัพย์คงเหลือของคุณ ในทํานองเดียวกัน มาร์จิ้นสูงสุดที่จะเพิ่มคือ 100% ของมูลค่าโพสิชัน 

โปรดอ้างอิงรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การเติมมาร์จิ้นอัตโนมัติ (สัญญา USDT) 

P/L ที่มีโอกาสเกิดขึ้น (%)

P/L ที่มีโอกาสเกิดขึ้นแสดงถึงกําไรหรือขาดทุนของโพสิชันที่เปิดอยู่แบบเรียลไทม์ 

ตามค่าเริ่มต้น P/L ที่มีโอกาสเกิดขึ้นในแท็บโพสิชันจะคํานวณตามราคาเทรดล่าสุดและไม่รวมค่าธรรมเนียมการให้เงินทุนหรือการเทรดใด ๆ 

อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณย้ายเคอร์เซอร์ของคุณไปยัง P/L ที่มีโอกาสเกิดขึ้น เคอร์เซอร์จะแสดงการคํานวณตามราคามาร์ก เพื่อให้นักเทรดสามารถประเมินความสูญเสียเพื่อป้องกันการชําระบัญชีได้ดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม การชำระราคาที่แท้จริงหลังจากที่ผู้ค้าปิดตําแหน่งของตนแล้วจะใช้ P/L ที่มีโอกาสเกิดขึ้นซึ่งคํานวณจากราคาเทรดล่าสุด 

วงเล็บแสดงผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของโพสิชันในรูปแบบเปอร์เซ็นต์ (P/L ที่มีโอกาสเกิดขึ้น) เช่นเดียวกับ P/L ที่มีโอกาสเกิดขึ้น ตัวเลขจะแสดงการเปลี่ยนแปลงโดยขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของราคาเทรดล่าสุดหรือราคามาร์ก 

อ่านเพิ่มเติม:

• การคํานวณ P&L (สัญญาแบบผันผวน)

• การคํานวณ P&L (สัญญา USDT) 

• การคํานวณ P&L (สัญญาต่อเนื่อง USDC และฟิวเจอร์ส) 

กำไร/ขาดทุนที่เกิดขึ้นจริง

กำไร/ขาดทุน (P&L) ที่เกิดขึ้นจริงหมายถึง P&L จริงทั้งหมดที่นักเทรดทำกำไร/ขาดทุน ซึ่งประกอบด้วยP/L (ทั้งหมด) ของคําสั่งของคุณ (คํานวณโดยใช้สูตรของ P/L ที่มีโอกาสเกิดขึ้น) ค่าธรรมเนียมการเทรดทั้งหมดของคุณที่จ่าย/รับ และค่าธรรมเนียมการระดมทุนทั้งหมดของคุณที่จ่าย/รับ

โปรดศึกษาคู่มือเหล่านี้สําหรับการคํานวณกำไร/ขาดทุนที่เกิดขึ้นจริง: 

• การคํานวณ P&L (สัญญาแบบผันผวน)

• การคํานวณ P&L (สัญญา USDT)

• การคํานวณ P&L (สัญญาต่อเนื่อง USDC และฟิวเจอร์ส)

TP/SL

นักเทรดสามารถกำหนดคำสั่งวางจุดขายทำกำไร (TP) และคำสั่งจุดตัดขาดทุน (SL) ได้จากแท็บโพสิชัน หากต้องการเรียนรู้วิธีการตั้งค่า TP/SL โปรดดูที่นี่

โปรดทราบว่าภายใต้โหมดครอส UTA หรือ Portfolio Margin การชําระราคาจะเริ่มต้นตาม MMR% ราคาชําระบัญชีที่แสดงเป็นราคาอ้างอิงและอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามเวลาจริง ขอแนะนําอย่างยิ่งให้ผู้ค้าจัดการตําแหน่งของตนอย่างจริงจังและนํากลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพมาใช้

อ่านเพิ่มเติม:

• บทนําเรื่องวางจุดขายทำกำไรและจุดตัดขาดทุน (สัญญา Perpetual และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า)

• ข้อดีและข้อเสียของการใช้ LTP หรือราคามาร์กเพื่อทริกเกอร์คําสั่งแบบมีเงื่อนไขของคุณคืออะไร

• ทําไมโพสิชันของฉันถึงต้องชำระบัญชีแม้ว่าจะถึงจุดตัดขาดทุนแล้วก็ตาม

การเลื่อนจุดตัดขาดทุนตามราคาปัจจุบัน (trailing stop)

การเลื่อนจุดตัดขาดทุนตามราคาปัจจุบัน (trailing stop) จะช่วยให้คําสั่งจุดตัดขาดทุนทำตามราคาเทรดสุดตามระยะทางและทิศทางที่กําหนดไว้ล่วงหน้า และจะย้ายโดยอัตโนมัติเพื่อล็อคผลกําไรหรือจุดตัดขาดทุน

หากต้องการทราบวิธีการตั้งค่า Trailing Stop โปรดดูที่ คำสั่ง Trailing Stop

MMR Close

MMR Close ช่วยให้นักเทรดสามารถจัดทําคําสั่งปิดตลาดตาม MMR (อัตรามาร์จิ้นรักษาสภาพ) เมื่อถึงทริกเกอร์ MMR ที่ตั้งไว้ คําสั่งตลาดจะถูกทริกเกอร์ให้ปิดโพสิชันทั้งหมด

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคําสั่งปิด MMR โปรดดูบทความนี้: คำสั่งปิดสำหรับอัตรามาร์จิ้นรักษาสภาพ (MMR)

กลับด้านโพสิชัน

เมื่อคลิกที่ กลับด้าน (Reserve) โพสิชันปัจจุบันของคุณจะถูกปิดและโพสิชันในทิศทางตรงกันข้ามที่มีปริมาณและสัญลักษณ์เท่ากันจะถูกเปิดทันที ช่วยให้คุณสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มในตลาดได้อย่างรวดเร็วด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว

โปรดทราบว่าหากคุณมีโพสิชันในทิศทางตรงกันข้ามสําหรับคู่เทรดเดียวกันแล้ว การปิดหนึ่งโพสิชันผ่านการดําเนินการกลับด้าน (Reserve) จะเพิ่มโพสิชันใหม่ไปยังโพสิชันที่มีอยู่แล้วในทิศทางเดียวกัน 

คุณสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟังก์ชันการซื้อขายด่วนนี้ได้ในหน้านี้

เอดีแอล (ADL)

ซึ่งจะแสดงการจัดอันดับ ADL ของโพสิชันของคุณในคิว ในกรณีที่มี ADL (การลดเลเวอเรจอัตโนมัติ) โพสิชันที่มีอันดับสูงสุดในระบบจะถูกเลือกให้ส่งก่อน การจัดอันดับการลดเลเวอเรจอัตโนมัติ (ADL) นั้นได้มาจากผลกําไรสูงสุดและการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ 

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ADL โปรดไปที่ ที่นี่

Close By

นักเทรดสามารถเลือกที่จะปิดตามคำสั่งตลาดหรือคำสั่ง Limit เมื่อดําเนินการตามคําสั่ง โพสิชันจะปิดลง 

โปรดเข้าใจคําสั่งประเภทต่าง ๆ ที่มีใน Bybit ก่อนเริ่มทําการเทรด

สัญญาทั้งหมดและปิดทั้งหมด 

ตัวเลือก แสดงโพสิชันทั้งหมด (Show All Positions) หรือ สัญญาทั้งหมด (All Contracts) ช่วยให้คุณสามารถดูตําแหน่งทั้งหมดที่อยู่ในคู่ซื้อขายที่แตกต่างกันทั้งหมดในครั้งเดียว 

ปุ่ม ปิดทั้งหมด (Close All) เป็นฟีเจอร์สําหรับนักเทรดในการปิดโพสิชันที่เปิดอยู่ทั้งหมด (คู่เทรดทั้งหมด) ในคลิกเดียว โพสิชันจะปิดในราคาที่ดีที่สุดในตลาด และจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเทคเกอร์

เพื่อลดโอกาสที่จะมีการคลิกผิด ขอแนะนําให้เปิดใช้งานหน้าต่างยืนยัน (Confirmation Windows)

แท็บอื่น ๆ

P&L

แท็บนี้แสดง P/L หลังจากปิดโพสิชันภายใต้คู่เทรดที่เกี่ยวข้องหลังจากพิจารณาค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่เกิดขึ้น

เวลาทางการเทรดหมายถึงเวลาปิดโพสิชันและเป็นเวลาตามอุปกรณ์ของผู้เทรด

แสดงเฉพาะ 100 รายการล่าสุดเท่านั้น สําหรับบันทึกเพิ่มเติม โปรดไปที่ประวัติคำสั่งทั้งหมด 

ในแอป คุณสามารถไปที่แท็บ คําสั่งทั้งหมด (All orders) ในหน้าการเทรดของคุณ เพื่อดูบันทึก P&L ของคุณ

อ่านเพิ่มเติม:

• การคํานวณ P&L (สัญญาแบบผันผวน)

• การคํานวณ P&L (สัญญา USDT) 

• การคํานวณ P&L (สัญญาต่อเนื่อง USDC และฟิวเจอร์ส)

แท็บคำสั่งปัจจุบัน

แท็บ คําสั่งปัจจุบัน แสดงคําสั่งที่รอการดําเนินการที่แตกต่างกัน คุณจะสามารถดู แก้ไข หรือยกเลิกคําสั่งที่รอดําเนินการ เช่น คําสั่ง Limit, คำสั่ง Conditional, TP/SL, คำสั่งการเลื่อนจุดตัดขาดทุนตามราคาปัจจุบัน และคําสั่ง MMR Close

คุณมีตัวเลือกในการแสดงสัญญาทั้งหมดหรือยกเลิกคําสั่งซื้อทั้งหมดเพื่อให้จัดการคําสั่งได้ง่ายขึ้น

• เมื่อผู้ค้าคลิกที่ ยกเลิกทั้งหมด(Cancel All) ระบบจะยกเลิกคําสั่งได้สูงสุด 20 คู่ต่อการยกเลิกหนึ่งครั้ง 

• ตัวอย่างเช่น หากผู้ค้ามีคําสั่ง 30 รายการ (แต่ละรายการจากคู่เทรดที่แตกต่างกัน) ระบบจะยกเลิกคําสั่ง 20 รายการแรก และนักเทรดจะต้องคลิกที่ ยกเลิกทั้งหมด (Cancel All) อีกครั้งเพื่อยกเลิกคําสั่งที่เหลืออีก 10 รายการ อย่างไรก็ตาม หากผู้ค้ามีคําสั่ง 100 รายการที่มาจากคู่เทรด 20 คู่ (แต่ละคู่มีคําสั่งที่ใช้งานอยู่ 5 รายการ) คําสั่งทั้งหมด 100 รายการจะถูกยกเลิก 

แสดงเฉพาะ 100 รายการล่าสุดเท่านั้น สําหรับบันทึกเพิ่มเติม โปรดไปที่ประวัติคำสั่งทั้งหมด 

ในแอป คุณสามารถไปที่แท็บ คําสั่งทั้งหมด (All orders) ในหน้าการเทรดของคุณ เพื่อดูบันทึก P&L ของคุณ

ประวัติการคำสั่งและประวัติการเทรด

แท็บ ประวัติคําสั่ง แสดงคําสั่งทั้งหมดที่ส่งสัญญาต่อเนื่องและในฟิวเจอร์ส รวมถึงคําสั่งที่ถูกยกเลิกและที่จับคู่แล้ว

แท็บประวัติการเทรด จะแสดงคำสั่งที่จับคู่แล้วของคู่เทรดที่เกี่ยวข้อง เวลาที่แสดงจะเป็นไปตามเวลาของอุปกรณ์ของนักเทรด

แสดงเฉพาะ 100 รายการล่าสุดเท่านั้น สําหรับบันทึกเพิ่มเติม โปรดไปที่ประวัติคำสั่งทั้งหมด 

ในแอป คุณสามารถไปที่แท็บ คําสั่งทั้งหมด (All orders) ในหน้าการเทรดของคุณ เพื่อดูบันทึก P&L ของคุณ

หากต้องการเรียนรู้ความแตกต่างระหว่างคําสั่งและการเทรด โปรดไปที่ ที่นี่ 

เครื่องมือ

ซึ่งจะแสดงบันทึกประวัติเครื่องมือที่ใช้งานและที่ถูกยกเลิกของคุณ รวมถึงคําสั่ง Limit รวมถึงคำสั่งเชสลิมิต, TWAP, คําสั่ง Iceberg และการเทรด Webhook

อ่านเพิ่มเติม:

• คำสั่งรอดำเนินการเกี่ยวกับสินทรัพย์ในการไล่ตามราคา (Chase Limit Order)

• บทนําสู่กลยุทธ์ TWAP

• คําสั่ง Iceberg

• วิธีใช้และตั้งค่าการเทรดด้วยสัญญาณ Webhook บน Bybit

(บัญชี Unified Trading Account)

(บัญชีมาตรฐาน)

ดัชนี

คําจํากัดความ

บัญชี Unified Trading Account (UTA)

P&L

ปุ่ม P&L นี้นําไปสู่หน้าการวิเคราะห์ UTA P&L ของคุณ

ในแอป คุณสามารถตรวจสอบการวิเคราะห์ P&L ของคุณได้จากหน้าสินทรัพย์ UTA ของคุณ 

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่นี่

โหมดมาร์จิ้น

คุณสามารถเปลี่ยนโหมดมาร์จิ้น UTA ได้ที่นี่ มีโหมดมาร์จิ้นสามโหมดใน UTA: Isolated Margin, Cross Margin, และ Portfolio Margin

หากต้องการเรียนรู้ความแตกต่างและเกณฑ์สําหรับแต่ละโหมดมาร์จิ้น โปรดไปที่ที่นี่

อัตรามาร์จิ้นขั้นต้น (IMR)

ไม่สามารถใช้ได้กับโหมด Isolated Margin

IM หมายถึงจำนวนทั้งหมดของมาร์จิ้นที่จำเป็นโดยคำสั่งที่เปิดใช้งานอยู่และโพสิชันที่เปิดอยู่ทั้งหมดใต้ทั้งอนุพันธ์ (ไม่รวม ผกผัน) และการแลกเปลี่ยนมาร์จิ้นแบบสปอตในสกุลเงิน USD

หากอัตรา IM ≥ 100% หมายความว่ามีการใช้บัญชีมาร์จิ้นทั้งหมดสําหรับคำสั่งที่เปิดใช้งานอยู่และโพสิชันที่เปิดอยู่ของคุณ คุณจะไม่สามารถส่งคำสั่งที่เปิดใช้งานอยู่ซึ่งอาจเพิ่มขนาดโพสิชันของคุณได้อีกต่อไป

อ่านเพิ่มเติม:

• บัญชี Unified Trading Account

• อภิธานศัพท์ (บัญชี Unified Trading Account)

อัตรามาร์จิ้นรักษาสภาพ (MMR)

ไม่สามารถใช้ได้กับโหมด Isolated Margin

MM หมายถึงจำนวนขั้นต่ำของมาร์จิ้นที่จำเป็นสําหรับโพสิชันที่ถืออยู่ในอนุพันธ์ (ไม่รวม ผกผัน) และการแลกเปลี่ยนมาร์จิ้นแบบสปอตในสกุลเงิน USD

เมื่อ MMR เท่ากับหรือมากกว่า 85% การขายสินทรัพย์แบบสปอตที่ถูกบังคับสําหรับการชําระคืนอัตโนมัติจะถูกทริกเกอร์

เมื่อ MMR มียอดถึง 100% หรือมากกว่า (เมื่อยอดคงเหลือมาร์จิ้นของคุณเท่ากับหรือน้อยกว่ามาร์จิ้นรักษาสภาพของคุณ) การชําระบัญชีบางส่วนสําหรับโพสิชันอนุพันธ์จะถูกทริกเกอร์จนกว่าจะเป็นไปตามข้อกําหนดของมาร์จิ้นรักษาสภาพอีกครั้ง

อ่านเพิ่มเติม:

• บัญชี Unified Trading Account

• อภิธานศัพท์ (บัญชี Unified Trading Account)

• กติกาการเทรด: กระบวนการชําระบัญชี (UTA)

มาร์จิ้นและยอดสินทรัพย์คงเหลือ

บัญชีมาร์จิ้นหมายถึงจํานวนเงินรวมที่สามารถใช้เป็นมาร์จิ้นภายใต้บัญชีหลังจากคำนวณอัตราส่วนค่าหลักประกัน

ยอดสินทรัพย์คงเหลือหมายถึงบัญชีมาร์จิ้นที่มีอยู่ซึ่งสามารถใช้สําหรับการเทรดได้ ยอดสินทรัพย์คงเหลือสําหรับเหรียญที่แตกต่างกันในการแลกเปลี่ยนแบบสปอตอาจแตกต่างกันเนื่องจากสาเหตุของการขาดทุนแฮร์คัต 

อ่านเพิ่มเติม:

• บัญชี Unified Trading Account

• อภิธานศัพท์ (บัญชี Unified Trading Account)

บัญชีมาตรฐาน (บัญชีอนุพันธ์)

อัปเกรด

หากคุณยังไม่ได้อัปเดตบัญชีของคุณเป็น UTA คุณสามารถทําได้โดยคลิกที่ อัปเกรด (Upgrade) 

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อดีของ UTA โปรดคลิกที่นี่

ทุนทรัพย์และยอดสินทรัพย์คงเหลือ

หุ้นหมายถึงยอดคงเหลือในวอลเล็ตของคุณและ P/L ที่มีโอกาสเกิดขึ้นขึ้นซึ่งคํานวณโดยใช้ราคามาร์ก

ยอดคงเหลือที่ใช้ได้คือจํานวนเงินในบัญชีของคุณที่สามารถใช้เพื่อส่งคําสั่งใหม่หรือโอนไปยังบัญชีอื่น

โปรดทราบว่าหากคุณเลือกโหมดครอสมาร์จิ้น การโอนยอดเงินคงเหลือออกจากบัญชีของคุณอาจเพิ่มความเสี่ยงในการชําระบัญชีในโพสิชันปัจจุบันของคุณ

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่คู่มือหน้าทรัพย์สินของตราสารอนุพันธ์ ที่นี่

P&L

ปุ่ม P&L นี้จะนําคุณไปยังหน้าการวิเคราะห์ P&L ของอนุพันธ์ของคุณ

ในแอป คุณสามารถตรวจสอบการวิเคราะห์ P&L ของคุณได้จากหน้าสินทรัพย์อนุพันธ์ของคุณ

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่นี่

ดัชนี

คําจํากัดความ

โซนคำสั่ง

โหมดมาร์จิ้นและเลเวอเรจ

โหมดมาร์จิ้นเริ่มต้นคือ Cross Margin

นักเทรดสามารถเปลี่ยนโหมดมาร์จิ้นและตัวคูณการใช้ประโยชน์จากการเทรดก่อนที่จะส่งคำสั่ง

การเปลี่ยนแปลงเลวอเรจจะส่งผลต่อมาร์จิ้นขั้นต้นของโพสิชันที่ถูกครอบครองในโหมดมาร์จิ้นใด ๆ อย่างไรก็ตาม ราคาการชําระบัญชีของคุณจะได้รับผลกระทบหากคุณเปลี่ยนการใช้เลเวอเรจ

สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่นี่ 

เปิดและปิด

บิตรองรับโหมดทางเดียว (One-Way) และโหมดป้องกันความเสี่ยง (Hedge) (โหมดสองทาง) ปัจจุบัน เฉพาะสัญญาต่อเนื่อง USDT และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบผันผวนของ USDT เท่านั้นที่รองรับโหมดป้องกันความเสี่ยง

เมื่อเลือกโหมดทางเดียว คุณจะสามารถรักษาโพสิชันของทิศทางเดียวสําหรับคู่เทรดแต่ละคู่เท่านั้น เมื่อคุณวางคําสั่งในทิศทางตรงกันข้าม จะปิดโพสิชันเปิดปัจจุบัน

เมื่อเลือกโหมดป้องกันความเสี่ยง คุณจะเห็นแท็บเปิดและปิดเมื่อเลือกโหมดป้องกันความเสี่ยง คุณสามารถใช้แท็บ เปิด (Open) เพื่อส่งคำสั่งซื้อสัญญาไว้และคำสั่งชอร์ต นักเทรดสามารถใช้แท็บ ปิด (Close) เพื่อปิดโพสิชันซื้อหรือชอร์ต 

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการสั่งซื้อ โปรดดูที่ วิธีการเริ่มต้นใช้งานสัญญาต่อเนื่องและฟิวเจอร์ส

โซนคำสั่ง

โซนคําสั่งจะได้รับการอัปเดตตามประเภทคําสั่งและข้อมูลที่คุณป้อน สําหรับการเปิดคําสั่งแต่ละครั้ง คุณจะเห็นค่าและต้นทุนของคําสั่งในแต่ละทิศทาง

สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดอ่านบทความต่อไปนี้: 

• ประเภทของคําสั่งที่มีใน Bybit

• วิธีการเปิดตําแหน่งงาน

• การเลือกระยะเวลาที่คำสั่งมีผล (GTC, IOC, FOK)

• การทําความเข้าใจความแตกต่างระหว่างคําสั่งของผู้ดูแลสภาพคล่องและคําสั่งของเทคเกอร์

แท็บเครื่องมือ

ติดตามราคาและคําสั่ง Split

ใช้ประเภทคําสั่งขั้นสูงของเราเพื่อเสริมสร้างกลยุทธ์การเทรดของคุณ เมื่อเลือกคําสั่งที่คุณเลือกแล้ว โซนคําสั่งจะได้รับการอัปเดตเพื่อให้คุณกรอกรายละเอียดคําสั่งที่จําเป็น

หากคุณมีข้อสงสัยว่าควรใช้คําสั่งประเภทต่างๆ ที่มีใน Bybit เมื่อใดและอย่างไร โปรดดูคู่มือนี้

กลยุทธ์การเทรด

พัฒนากลยุทธ์ที่ทรงพลังโดยใช้ฟังก์ชันการเทรด Webhook และ ตัวสร้างโพสิชัน (Position Builder) ของเรา สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือเหล่านี้ โปรดอ่านคําแนะนําต่อไปนี้: 

• วิธีใช้และตั้งค่าการเทรดด้วยสัญญาณ Webhook บน Bybit

• วิธีการเริ่มต้นด้วยตัวสร้างตําแหน่ง (Position Builder) บน Bybit

ก๊อปปี้เทรดและบ็อทการซื้อขาย

เข้าถึงหน้า ก๊อปปี้เทรด and บ็อทการซื้อขาย โดยคลิกที่ผลิตภัณฑ์ที่คุณสนใจ

คุณสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แต่ละรายการได้ที่ด้านล่าง: 

• ก๊อปปี้เทรด

• บ็อทการซื้อขาย