ราคา Polygon

Polygon คืออะไร?

Polygon คือโซลูชันปรับขนาดที่นำเสนอเครื่องมือสำหรับเพิ่มความเร็วให้กับบล็อกเชน พร้อมทั้งลดค่าใช้จ่ายและความซับซ้อนของธุรกรรม นอกจากนี้ ยังช่วยแก้ปัญหาสำคัญที่ Ethereum ต้องเผชิญ เช่น ปริมาณธุรกรรมน้อย ค่าธรรมเนียมสูง และประสบการณ์ที่ไม่น่าประทับใจของผู้ใช้

เดิมที Polygon มีชื่อว่า “Matic Network.” แต่เมื่อโปรเจกต์ขยายขอบเขตมากขึ้น ต่อมาจึงมีการรีแบรนด์เป็น “Polygon” ซึ่งเป็นชื่อที่ผู้สนใจคริปโตในปัจจุบันคุ้นเคยกันดี ถึงแม้ว่า Matic Network จะเคยเป็นโซลูชันปรับขนาด Layer 2 สำหรับ Ethereum มาก่อน แต่ Polygon มีโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับใช้รองรับเครือข่ายบล็อกเชนที่มีการร่วมมือกันและมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตัวเอง

เป้าหมายของ Polygon คือการสร้าง “เครือข่ายอินเทอร์เน็ตบล็อกเชนของ Ethereum” กล่าวคือเป็นระบบนิเวศแบบหลายเชนที่ประกอบด้วยบล็อกเชนที่เข้ากันได้กับ Ethereum แพลตฟอร์มจะมอบเฟรมเวิร์กใช้งานง่ายที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างบล็อกเชนตามความต้องการที่เข้ากันได้กับ Ethereum โดยอาศัยการคลิกอย่างง่ายๆ

Polygon เล็งเห็นความเป็นไปได้ที่บล็อกเชนจะแลกเปลี่ยนมูลค่าและข้อมูลระหว่างกันได้อย่างอิสระและง่ายดาย ดังนั้นเป้าหมายที่แท้จริงของแพลตฟอร์มก็คือ กำจัดความแตกต่างทางเทคโนโลยีและแนวคิดที่จำแนกบล็อกเชนส่วนใหญ่ในปัจจุบันออกจากกัน

MATIC คืออะไร?

MATIC คือโทเค็นดั้งเดิมบนแพลตฟอร์ม Polygon โทเค็น MATIC สามารถใช้ในการชำระเงินหรือจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยเพื่อปกป้องเครือข่าย Polygon หลังจากผ่านการรีแบรนด์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 มูลค่าของ MATIC ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากตามอัตราการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้น

โทเค็น MATIC ซื้อขายบนแพลตฟอร์มเทรดแบบกระจายศูนย์และแบบรวมศูนย์ชั้นนำ เช่น Bybit, Coinbase และ Kraken ขั้นตอนการซื้อ MATIC นั้นง่ายมาก โดยจะซื้อด้วยสกุลเงิน Fiat หรือคริปโตเคอเรนซีก็ได้

เหรียญ MATIC นำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง?

โทเค็น MATIC ของ Polygon ออกแบบมาให้มีฟังก์ชันการใช้งานหลายอย่าง เช่น:

• ส่ง: ผู้ใช้สามารถซื้อโทเค็น MATIC ทางออนไลน์แล้วส่งไปให้ใครก็ได้ทั่วโลกด้วยที่อยู่ Polygon ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งค่าธรรมเนียมธุรกรรมบนเครือข่ายก็ชำระด้วยโทเค็น MATIC เช่นกัน

• ชำระเงินหรือเทรด: MATIC เป็นสกุลเงินที่ใช้ชำระเงินบนเครือข่าย Polygon นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถเทรด Polygon กับคริปโตเคอเรนซีได้กว่า 150 สกุลบนแพลตฟอร์มการเทรดที่ปลอดภัย เช่น MetaTrader 4 และ Libertex

• Stake: MATIC ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการชำระราคาระหว่างผู้ใช้ที่เข้าร่วมการดำเนินงานในระบบนิเวศ Polygon  

• จัดเก็บ: ผู้ใช้หลายรายเลือกที่จะสะสมและเก็บ MATIC เอาไว้ เพราะคาดการณ์ว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต โทเค็น MATIC สามารถจัดเก็บไว้ได้อย่างปลอดภัยในวอลเล็ตคริปโตชั้นนำ แต่แนะนำให้ใช้วอลเล็ตแบบฮาร์ดแวร์ เช่น Ledger หรือ Trezor เนื่องจากเป็นวิธีการจัดเก็บและสำรองข้อมูลแบบออฟไลน์ที่ปลอดภัย

ในอนาคต MATIC อาจจะกลายเป็นรางวัลจูงใจทางการเงินให้กับผู้ใช้ที่มีส่วนสนับสนุนเครือข่าย Polygon และทำให้ระบบนิเวศเติบโต ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้อาจจะมอบทรัพยากรทางการคำนวณและบริการต่างๆ เกี่ยวกับการตรวจสอบความถูกต้องของบล็อกและเผยแพร่การพิสูจน์เพื่อรับโทเค็น MATIC เป็นการตอบแทน เป็นต้น

ใครคือผู้ก่อตั้ง Polygon?

ไอเดียแรกเริ่มของ Polygon มาจากซีอีโอคนปัจจุบัน Jaynti Kanani เมื่อปี 2560 Kanani ทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลให้กับ Housing.com เขาทราบว่าเครือข่าย Ethereum เจอปัญหาความแออัดและการปรับขนาดจำนวนมากที่เกิดจากโปรเจกต์ CryptoKittiesซึ่งเป็นโทเค็นที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ (NFT) อันโด่งดังในตอนนั้น

เพื่อแก้ไขปัญหาที่เขาสังเกตเห็น Kanani ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจาก Sandeep Nailwal ที่ปรึกษาทางธุรกิจของ Polygon ในปัจจุบัน และ Anurag Arjun ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน หลังจากนั้น ทั้งสามคนช่วยกันสร้าง MATIC ขึ้นมา โดยมีฐานการดำเนินงานอยู่ที่เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย

ในการเสนอขายครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2562  Polygon ขายโทเค็น MATIC ไปถึง 1.9 พันล้านโทเค็น โดยสามารถระดมทุนเป็น ETH มูลค่า 5.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในเวลาแค่ 20 วันเท่านั้น

นับตั้งแต่ก่อตั้ง Polygon ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรการเงินแบบกระจายศูนย์(DeFi) ชื่อดังชั้นนำมากมาย ในจำนวนนี้รวมถึง Decentraland และ MakerDAO

 Polygon ทำงานอย่างไร?

Polygon คือแพลตฟอร์มที่มีหลายระบบ และมีเป้าหมายเพื่อปรับขนาด Ethereum โดย Polygon จะใช้ Sidechain จำนวนมากมาช่วยลดความแออัดของแพลตฟอร์มหลักอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า

หัวใจหลักของเครือข่าย Polygon ก็คือ ชุดการพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Development Kit, SDK) สำหรับใช้สร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ที่เข้ากันได้กับ Ethereum ที่จะทำหน้าที่เป็น Sidechain และเชื่อมต่อเข้ากับบล็อกเชนหลัก

สถาปัตยกรรมของ Polygon ประกอบด้วย 4 ชั้น:

• ชั้น Ethereum (ไม่บังคับ)

• ชั้นความปลอดภัย (ไม่บังคับ)

• ชั้นเครือข่าย Polygon (บังคับ)

• ชั้นดำเนินการ (บังคับ)

ชั้น Ethereum คือชุดของสัญญาอัจฉริยะที่ใช้บน Ethereum ซึ่งทำหน้าที่จัดการขั้นสุดท้ายของธุรกรรม การ Stake และการสื่อสารระหว่าง Ethereum กับเชน Polygon หลายๆ เชน

ชั้นความปลอดภัย จะทำงานควบคู่กับ Ethereum โดยเสนอ "บริการผู้ตรวจสอบความถูกต้อง" ที่ช่วยให้เชนต่างๆ ได้รับประโยชน์จากชั้นความปลอดภัยที่เพิ่มเข้ามา

ชั้นเครือข่าย Polygon คือระบบนิเวศที่ประกอบด้วยเครือข่ายบล็อกเชนจำนวนมากที่พัฒนาขึ้นมาบน Polygon โดยแต่ละเครือข่ายจะมีชุมชนเป็นของตัวเองที่ทำหน้าที่จัดการฉันทามติในเครือข่ายและการผลิตบล็อก

ชั้นดำเนินการ คือการปรับใช้ EVM ของ Polygon ซึ่งใช้สำหรับการทำสัญญาอัจฉริย

เพราะเหตุใด Polygon ถึงมีมูลค่า?

Polygon มีความเชื่อมโยงกับฟังก์ชันบางส่วนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในวงการคริปโตเคอเรนซี ได้แก่: Think DeFi, DAO (องค์กรอิสระแบบกระจายศูนย์), DApps (แอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์) หรือ NFT

การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Polygon ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่เครือข่าย Ethereum ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและมีการนำบล็อกเชนไปใช้กันมากขึ้น นอกจากนี้ การมีธุรกรรมที่ถูกลงและเร็วขึ้นจากการใช้สถาปัตยกรรม Sidechain ของ Polygon ยังทำให้เกิดความตื่นตัวทั้งในแง่ของราคาและการรับรู้ของบุคคลทั่วไป

ราคาของ MATIC เพิ่มขึ้นจาก 0.2 เซ็นต์ในเดือน กุมภาพันธ์ 2564 มาเป็น $0.61 ขณะที่จัดทำบทความนี้ (24 มิถุนายน 2565)

มูลค่าที่เพิ่มขึ้นของ Polygon ยังทำให้นักลงทุนให้ความสนใจในโปรเจกต์นี้มากขึ้นด้วย Polygon ทำงานร่วมกับ Trace Network อีกทั้งยังประกาศการร่วมมือกับ M-Setu โดย Infosys Ltd. และ BigQuery  Google Cloud ความต้องการเครือข่ายที่มีความสามารถในการปรับขนาดสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นไปได้มากขึ้นว่า Polygon จะออกโปรเจกต์ใหม่ๆ อีกในอนาคต

ปัจจุบัน Polygon เป็นคริปโตเคอเรนซี 15 อันดับแรก ทว่าผู้ก่อตั้งมีแผนที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น โดยต้องการเป็นโปรเจกต์คริปโตที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจาก Bitcoin และ Ethereum

อะไรทำให้ Polygon ไม่เหมือนใคร?

Polygon ขยายขอบเขตทั้งในส่วนวิสัยทัศน์และการดำเนินงานของโปรเจกต์ Matic Network ของเดิม โดยการเสนอเครื่องมือให้นักพัฒนานำไปใช้สร้างบล็อกเชนประสิทธิภาพสูงที่มีความสามารถในการปรับขนาดได้ดีเป็นพิเศษและ DApps

กระบวนการสร้างโซลูชันบน Polygon ค่อนข้างคล้ายกับบน Ethereum ชุมชนนักพัฒนาบล็อกเชนที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะเข้าถึง Polygon ได้ในทันที  นักพัฒนา Ethereum สามารถใช้ Polygon เพื่อสร้างแอปพลิเคชันที่ปรับขนาดได้ดี ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากอานุภาพของเครือข่ายของ Ethereum โดยไม่ต้องลดทอนประสิทธิภาพด้านใดๆ ลง 

นอกจากนี้ Polygon ยังแตกต่างไม่เหมือนใครตรงที่รองรับกลไกการปรับขนาดหลายแบบ ซึ่งโปรเจกต์ต่างๆ เลือกใช้ได้ตามดุลยพินิจ ซึ่งนี่ทำให้ Polygon เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่งในกรณีที่โซลูชันการปรับขนาดได้รับความนิยมมากขึ้นในอนาคต หรือไม่สามารถทำตามสัญญาหรือเป้าหมายที่วางไว้

Ethereum Virtual Machine (EVM)

Ethereum virtual machine (EVM) คือแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่นักพัฒนานำมาใช้สร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ได้ EVM ใช้งานง่าย และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ Ethereum เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับ dApps

การที่ Polygon ทำงานเข้ากันได้กับ EVM ช่วยให้นักพัฒนาสามารถโอนย้ายแอปได้อย่างง่ายดาย แอป Ethereum ชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Aave และ SushiSwap ต่างก็มาอยู่บน Polygon แล้ว

ฟังก์ชันส่งข้อความ

เนื่องจาก Polygon มีความสามารถในการส่งข้อความ ดังนั้น เชนที่เปิดตัวบน Polygon จะสามารถสื่อสารกันได้ รวมทั้งสื่อสารกับเชนหลัก Ethereum ได้ด้วย ซึ่งความสามารถดังกล่าวทำให้เกิดกรณีการใช้งานใหม่ๆ เช่น DApp ที่ทำงานร่วมกันได้ และการแลกเปลี่ยนมูลค่าระหว่างแพลตฟอร์มต่างๆ 

เครื่องมือพร้อมใช้

นักพัฒนาสามารถสร้าง Sidechain บน Polygon ด้วยเทคนิคการปรับขนาดโครงสร้างแบบใดก็ได้ต่อไปนี้:

• PoS Chain — เชนหลักของ Polygon คือ Sidechain แบบ Proof of Stake  (PoS) ที่ให้ผู้เข้าร่วมสามารถ Stake โทเค็น MATIC บนเครือข่ายเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมและลงคะแนนโหวตการอัปเกรด

• Plasma Chains — รวมชุดธุรกรรมเป็นบล็อกๆ แล้วส่งในครั้งเดียวกันบนบล็อกเชน Ethereum

• ZK-Rollups — รวมชุดการโอนหลายๆ รายการเข้าด้วยกันเป็นธุรกรรมรายการเดียว

• Optimistic Rollups — คล้ายกับ  Plasma Chains แต่มีการเพิ่มความสามารถในการปรับขนาดสัญญาอัจฉริยะสัญญาอัจฉริยะ Ethereum

มีเหรียญ MATIC หมุนเวียนอยู่เท่าไหร่?

ปัจจุบันมี MATIC หมุนเวียนอยู่ในระบบ 8 พันล้านโทเค็น โดยอุปทานรวมอยู่ที่ 10 พันล้านโทเค็น

ในการขายแบบส่วนตัวครั้งแรกในปี 2560 Polygon ได้ออกเหรียญมา 3.8% ของอุปทานสูงสุดของ MATIC จากนั้นในการขายรอบเปิดตัว มีการขายโทเค็นอีก 19% ของอุปทานรวม ซึ่งในตอนนั้นราคาของ Polygon อยู่ที่ 0.2 เซ็นต์ต่อโทเค็น โดยมีมูลค่าการขายอยู่ที่ 5 ล้านดอลลาร์

โทเค็นส่วนที่เหลือได้รับการแจกจ่ายดังนี้:

• โทเค็นของทีมงาน: 16% ของอุปทานรวม

• โทเค็นของที่ปรึกษา: 4% ของอุปทานรวม

• โทเค็นสำหรับการดำเนินงานของเครือข่าย: 12% ของอุปทานรวม

• โทเค็นของมูลนิธิ: 21.87% ของอุปทานรวม

• โทเค็นสำหรับระบบนิเวศ: 23.33% ของอุปทานรวม

มีการออกโทเค็น MATIC ใหม่ทุกเดือน ซึ่งหากดูจากกำหนดการออกโทเค็นล่าสุดแล้ว โทเค็น MATIC ทั้งหมดจะออกจนครบภายในเดือนธันวาคม 2565

วิธีจัดเก็บ MATIC

วอลเล็ตคริปโตสำหรับจัดเก็บโทเค็น MATIC มีสามประเภทให้เลือก ได้แก่:

• วอลเล็ตแบบออนไลน์ (วอลเล็ตแบบร้อน)): วอลเล็ตแบบออนไลน์จะเข้าถึงได้ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ แต่เสี่ยงต่อการถูกแฮ็ก

• วอลเล็ตแบบซอฟต์แวร์: วอลเล็ตแบบซอฟต์แวร์ใช้งานง่ายกว่าวอลเล็ตแบบฮาร์ดแวร์ และดาวน์โหลดลงบนสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ได้

• วอลเล็ตแบบฮาร์ดแวร์ (วอลเล็ตแบบเย็น): วอลเล็ตแบบฮาร์ดแวร์เหมาะสำหรับใช้จัดเก็บและสำรองข้อมูลแบบไลน์อย่างปลอดภัย ข้อเสียคืออาจมีราคาแพงและใช้งานค่อนข้างยาก วอลเล็ตแบบฮาร์ดแวร์เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มีประสบการณ์มากพอสมควรและต้องการจัดเก็บเหรียญ MATIC จำนวนมาก

ซื้อ MATIC ได้จากไหน

คุณสามารถซื้อ MATIC ได้จากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีชั้นนำรวมถึงBybit ด้วย

วิธีซื้อ MATIC บน ByBIT

คุณสามารถซื้อ MATIC บน Bybit ได้โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

1. ไปที่หน้าการเทรดสปอตของ MATIC

2. เลือกคู่เทรดจากฝั่งซ้ายมือของหน้า คุณสามารถเลือกเทรด MATIC กับ USDT หรือ BTC ก็ได้

3. เลือกประเภทคำสั่งที่ต้องการดำเนินการ: Limit Order, Market Order หรือ Conditional Order

สำหรับคำสั่ง Limit Order:

1. เลือก Limit

2. ระบุราคาคำสั่ง

3. ระบุจำนวน MATIC ที่คุณต้องการซื้อ

4. คลิก ซื้อ MATIC

5. หลังจากยืนยันว่าข้อมูลถูกต้องแล้ว ให้คลิก ซื้อ MATIC

6. ตรวจสอบรายละเอียดคำสั่งได้ภายใต้ เปิดใช้งานอยู่ บนหน้าเว็บ ส่วนในแอป Bybit ให้ไปที่ คำสั่ง

สำหรับคำสั่ง Market Order:

1. เลือก Market

2. ระบุจำนวนเงิน USDT ที่จ่ายเพื่อซื้อ MATIC

3. คลิก ซื้อ MATIC

4. หลังจากยืนยันว่าข้อมูลถูกต้องแล้ว ให้คลิก ซื้อ MATIC

5. ดูรายละเอียดคำสั่งภายใต้ จับคู่

สำหรับคำสั่ง Conditional Order:

1. เลือก Conditional

2. ระบุราคาเงื่อนไข

3. เลือกดำเนินการที่ ราคาตลาด หรือ ราคาที่จำกัดไว้

1. ราคาตลาด: ไม่จำเป็นต้องตั้งราคาคำสั่ง

2. ราคาที่จำกัดไว้: จำเป็นต้องตั้งราคาคำสั่ง

4. ตามประเภทคำสั่ง:

1. Market Buy: ระบุจำนวนเงิน USDT ที่จ่ายเพื่อซื้อ MATIC

2. Limit Buy: ระบุจำนวน MATIC ที่คุณต้องการซื้อ

5. คลิก ซื้อ MATIC

6. หลังจากยืนยันว่าข้อมูลถูกต้องแล้ว ให้คลิก ซื้อ MATIC

7. ตรวจสอบรายละเอียดคำสั่งได้ภายใต้ Conditional บนหน้าเว็บ ส่วนในแอป Bybit ให้ไปที่ คำสั่งทั้งหมด → คำสั่งปัจจุบัน

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถเข้าไปที่คู่มือการเทรดสปอตของ Bybit ได้เช่นกัน